วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

AI614_Class6_14 Dec 2010

AI614_Class6_14 Dec 2010

E-Business and E-commerce


ตัวอย่าง Dell - เป็นบริษัทที่ใช้ระบบ E-commerce ในการดำเนินงาน ลูกค้าสั่งซื้อ Laptop ผ่านเว็ปไซต์สามารถระบุสเปคเครื่องเองได้ เป็นการผลิตแบบ Customization ซึ่งทำให้สามารถตั้งราคาสูงได้ ในขณะที่คู่แข่งของ Dell ขายสินค้าผ่านทางหน้าร้าน

ตัวอย่าง Ebay - เป็นเว็ปไซต์ประมูล ทำให้ผู้ขายสามารถขายสินค้าได้ในราคาที่สูงขึ้น เนื่องจาก Information Asymmetry กำไรค่อนข้างดี เพราะเวลาผู้ซื้อบิดได้ จะรู้สึกพอใจมากขึ้น(ได้ชนะการบิด)

ตัวอย่าง Amazon - เป็นเว็ปขายสินค้าสินค้า เริ่มจากขายหนังสือก่อน เพราะมีหนังสือจำนวนที่ไม่ค่อยมีคนอ่านและหายาก เชื่อว่าจะขายได้เพราะใช้เทคนิคที่เรียกว่า long tail (สินค้าบางประเภทจะขายดีมาก ประมาณ 10%ของลูกค้าจะซื้อสินค้าชนิดนี้ แต่ก็ยังมีสินค้าประเภทอื่นที่ไม่เป็นที่นิยมมากนักแต่ก็ยังมีลูกค้าส่วนที่เหลือสนใจ)

Click & Mortar เป็นบริษัทที่มีการขายทั้ง online และ offline
Brick and Mortar เป็นบริษัทที่มีการขายแบบ offline อย่างเดียว

รูปแบบของ E-Business แบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้
1. Business-to-Business (B2B)
2. Business-to-Consumer (B2C)
3. Consumer-to-Consumer (C2C)

E-commerce Model

·        Affiliate marketing หาคู่ค้า โดย ให้ code affiliate ประจำตัวต่อคู่ค้าแต่ละคน เมื่อมีลูกค้าซื้อสินค้าผ่านการเชื่อมโยงมาจากเว็ปไซต์ของคู่ค้า คู่ค้าจะได้เปอร์เซ็นต์จากการขาย
·        Batering เว็ป www.craigslist.com คนใช้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันฟรี เช่น แลกของ ซื้อของ, Couchsurfing.com คล้าย facebook ของนักท่องเที่ยว ถ้าไปเที่ยวที่ที่มีสมาชิกอยู่ก็ไปนอนบ้านเค้าก็ได้ หรือPriceline.com ใช้เวลาซื้อตั๋วเครื่องบิน โดยให้ลูกค้าแจ้งราคาที่ต้องการเข้าไป แล้ว Priceline ทำหน้าที่ Matching
·        Online Advertisers, Marketers & Students  เช่น facebook
·        Company-sponsored Socially Oriented Sites เช่น eblogger
·        API คือ Application Programming Interface  เช่น iphone มี app เยอะ พวกนักพัฒนาจะต้องมี code API ของ apple เพื่อเอาไปสร้าง app เพื่อมาใช้กับ iphone apple ได้, Paypal  ดีกว่าการตัดบัตรเครดิตปกติตรงที่มีความปลอดภัย และสามารถปริ้นใบเสร็จจาก Paypal แล้วเอาไปจ่ายเงินสดที่ธนาคารได้ นอกจากนี้ยังมี youtube และ google map

ประโยชน์ของ E-Commerce

1  สามารถเปิดให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
2  ตัดปัญหาเรื่องการต่อรองราคาสินค้า
3  ลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร
4  ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมมีโอกาสมากขึ้น ทั้งโอกาสในการขายและการเปิดตลาดใหม่
5  โอกาสทางธุรกิจเท่าเทียมกัน
6  การประชาสัมพันธ์ทำได้ง่ายขึ้น

ข้อจำกัดของ E-commerce 

1.       Technology limitation
2.       Security มีโอกาสโดนปลอมแปลงบัตรเครดิต
3.       ขาดความรู้ด้านกฎหมายการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์

Social Commerce ลูกค้ามักซื้อของถ้าได้รับคำแนะนำจากเพื่อน  คนรู้จักมากกว่าการโฆษณา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า Facebook เริ่มมีอิทธิพลต่อสังคมออนไลน์อย่างมาก และอาจกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของ Google หาก Facebook  สามารถสร้าง Search engine ของตนเองขึ้นมาได้ Search Engine ของ facebook จะสามารถค้นหาความคิดเห็นที่มีต่อสินค้านั้นๆได้มากกว่า Google
  •  Electronic Catalogs เช่น  JCPenney, the home depot
  • E-Auctions  เช่น uBid,  ebay,  DellAuction  ทำให้ผู้ขายไม่ถูกกดราคาเหมือนการขายในตลาดทั่วไป
  • E-classifieds  เช่น Paypal, EbayMotors, Half.com
  • Customer service online เช่น Dtac , True
  • Electronic Malls   เช่น MSN Shopping, Cash back stores, Choice mall, We love shopping, Allibaba 
  • Batering&Negociation เวปสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้า พวก B2B Auction เช่น TARADB2B.COM เป็นเวบไซด์ขายของของเมืองไทยที่เพิ่งขายให้ญี่ปุ่นไป เข้ามาซื้อของได้ทั้งคนไทยและต่างชาติ
  • Electronic Storefront           มีการขายทั้ง online และ offline ข้อดีอยู่ตรงที่ลูกค้าจะมีหลายกลุ่ม หรือเวลาจะคืนของก็สามารถไปเคลมคืนที่ร้านได้ แต่ก็มีข้อเสียคือต้นทุนสูง จะต้องแยกการจัดการระหว่างร้าน online และ ร้านoffline
  • Electronic Malls เช่น MSN Choice Mall พยายามให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือนไปห้างมากที่สุดOnline Job Market เช่น Jobsdb.com, jobtopgun.com
  • Travel Service เช่น Expedia, Carnival, Travelocity, Hotwire.com
  • Real-estate online
  • Major Models of E-business : From E-Government to C2C  เช่น B2E, E2E, E-collaborative, E-Government(E-Government คือ การที่ส่วนราชการใช้ Internet และ Website เข้ามาช่วยในกระบวนการต่าง เช่นการจ่ายภาษี หรือการประมูลงานของรัฐ)
  • การจ่ายเงินออนไลน์  เช่น Electronic funds transfer , Electronic checks

Presentation
Cloud computing คือวิธีการประมวลผลที่อิงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยเมื่อผู้ใช้ระบุความต้องการไปยังระบบ ระบบจะทำการจัดสรรทรัพยากรและบริการให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ สามารถขยายหรือปรับเปลี่ยนได้ตาม Service Provider มีลักษณะที่สำคัญ 5 ประการ
                 1.On demand
                 2.Board Network Access
                 3.Resource Pooling
                 4.Rapid Elasticity
                 5.Measured Service           

ประโยชน์ของ Cloud computing มีอยู่หลายประการ ได้แก่
  • Cost saving นอกจากองค์กรจะสามารถนำ IT มาใช้งานได้ง่ายแล้วยังช่วยลดต้นทุนการลงทุนด้าน IT อีกด้วยเนื่องจากการให้บริการผ่าน Cloud Computing เป็นระบบการให้บริการแบบ Share ทรัพยากรทั้งส่วนจัดเก็บข้อมูล Application และการประมวลผลบนInternet  จึงเกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of scale)
  • Scalability ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการเฉพาะอย่างและเลือกเสียค่าใช้จ่าย ให้ตรงกับความต้องการเฉพาะด้านหรือสอดคล้องกับงบประมาณของตนได้
  • Access to top-end IT capabilities ทำให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรด้าน IT ที่ดีได้ โดยไม่ต้องมีเงินลงทุนจำนวนมาก
  • Focusing on core competencies ทำให้องค์กรสามารถFocusจุดแข็งขององค์กรได้ โดยไม่ต้องแบ่งมาลงทุนด้าน IT
  • Efficient asset utilization ใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Concern

    * Privacy and security เพราะจะต้องฝากข้อมูลไว้ให้คนอื่นเก็บ
    * Non-standard platform ไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน เพราะสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของแต่ละองค์กร
    * Reliability ความมั่นคงหรือความน่าเชื่อถือ เพราะถ้าระบบล่ม องค์กร จะทำงานต่อไปอย่างไร
    * Portability ใช้ได้สะดวก ผ่าน Internet



Health Informatics คือการนำข้อมูลทางด้านสุขภาพมาผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อใช้ในการจัดการทรัพยากร, เครื่องใช้ต่างๆ และนำมาพัฒนาปรับปรุงวิธีการได้มา, การเก็บรักษา และการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เกี่ยวสุขภาพ

                ระบบสารสนเทศสุขภาพ (Health Information) หมายถึง สารสนเทศที่เกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมถึงข้อมูลด้านทรัพยากรสาธารณสุข และกิจกรรมสาธารณสุข โดยสารสนเทศสุขภาพ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่

1. ข้อมูลด้านประชากร เศรษฐกิจและสังคม
2. ข้อมูลด้านสุขภาพ
3. ข้อมูลด้านทรัพยากรสาธารณสุข
4. ข้อมูลด้านกิจกรรมสาธารณสุข
5. ข้อมูลด้านการบริหารจัดการ

ระบบสารสนเทศสาธารณสุข จำแนกตามภารกิจแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ เพื่อการบริหาร, เพื่อการบริการ และ เพื่องานวิชาการ

ตัวอย่างการใช้ Health informatics เช่น ระบบบันทึกการรักษาผู้ป่วย, ระบบบันทึกการ admit ของผู้ป่วย,ระบบบันทึกอุปกรณ์การแพทย์

ประโยชน์ของ Health informatics การนำข้อมูลด้านสุขภาพมาเชื่อมโยงกับระบบสารสนเทศ จะช่วยให้การบริการด้านสาธารณสุขเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความผิดพลาด เพิ่มคุณภาพการรักษาพยาบาล รวมทั้งสามารถวางแผนการใช้ทรัพยากรไม่ว่าจะเป็นทางด้านบุคคลหรืออุปกรณ์ได้เพียงพอต่อความต้องการ



  Web  2.0


มีลักษณะสำคัญ 7 ประการ คือ

1.       Network as platform สามารถใช้งานผ่าน Web Browser ได้
2.       ผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของข้อมูลบน "website" นั้น สามารถดำเนินการใดๆ ก็ได้กับข้อมูลนั้น 
3.       ผู้ใช้มีส่วนร่วมมากขึ้นไม่ใช่แค่อ่านได้อย่างเดียว แต่ยังสามารถสร้าง content เองได้ ตัวอย่างเช่น Digg, Flickr, Youtube , Wiki
4.       มี User interface ที่ดีขึ้น
5.       สามารถโต้ตอบกันได้
6.       มีความรวดเร็วและง่ายในการส่งข้อมูลมากขึ้น
7.       มีการเอา Function ใช้งานจากหลายเว็บรวมเข้าด้วยกัน

เปรียบเทียบ Web 1.0 กับ Web 2.0
           Web 1.0 จะเป็นการสื่อสารทางเดียว คือจากเจ้าของเว็ปไซต์ซึ่งเป็นคนเดียวเท่านั้นที่สามารถใส่ข้อมูลลงในเว็บนั้นได้ แต่ Web 2.0 ทั้งเจ้าของและผู้ใช้สามารถโต้ตอบกันได้

  เทคโนโลยีที่ช่วยทำให้เว็บทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น AJAX ทำให้เว็ปทำงานเร็วขึ้น, SaaS(Software as service) เป็นซอฟแวร์บนเว็บที่ให้บริการโดยไม่ต้องซื้อ, RSS เป็นการอัพเดต content,ข้อมูลใหม่ๆ

ตัวอย่างเว็บไซต์ยุค Web 2.0 ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก YouTube, MySpace, Facebook, Wikipedia

Dungchanok 5202113162

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น