M-commerce
การซื้อขายแลกเปลี่ยน สิ่งของผ่านพวกอุปกรณ์ต่างๆเช่น มือถือ, PDAs ปัจจุบันคนสามารถใช้มือถือ(smart phone)เล่นอินเตอร์เน็ตได้ พวก PDAs เมื่อ ก่อนมือถือใหญ่มาก แล้วมียุคหนึ่งต้องการทำให้มือถือยิ่งเล็กยิ่งดี จนพอมาถึงปัจจุบัน เริ่มทำให้ใหญ่ขึ้นเนื่องจากต้องการให้เป็น smart phone
First laptop invented by Alan Kay in 1968.
First PDA introduced in 1983.
• Ubiquity - refers to the attribute of being available at any location at any given time (ex: smart phone or PDA)สามารถเข้าได้ทุกหนทุกแห่ง ติดตัวเราตลอดเวลา
• Convenience - many available hot spots มีเครือข่ายให้เข้าได้ทุกที่
• Instant Connectivity - สามารถเข้าถึง Internet, Intranet, other mobile device ได้อย่างรวดเร็ว
• Personalization - สามารถ customize ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคน
• Localization of product & service - สามารถเอาข้อมูลมาเป็นข้อมูลส่วนตัวได้
Drivers of Mobile Computing & M-commerce
• Widespread availability of mobile devices คนใช้มือถือเยอะ
• No need for a pc ต่อไป smart phone จะเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ใช้เชื่อมต่อ internet
• Handset culture วัฒนธรรมของผู้ใช้คือมือถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
• Declining prices, increased functionalities
• Improvement of bandwidth – 3G & 3.5G
• Centrino Chip มีการพัฒนา chip ให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น เร็วขึ้น กินไฟน้อยลง
• Availability of Internet access in automobile
• Networks เครือข่ายรองรับมากขึ้น เช่น 3G, 4G, Wi-Fi
• The Service Economy มีการให้บริการผ่าน internet มากขึ้น
• Vendor’s Push ผู้ผลิตมีการผลักดันให้มีการใช้มากขึ้น
• The Mobile Workforce
ตัวอย่าง Business Model ของ M-Commerce
Mobile Shopping, mobile Banking, Information based service, Mobhile Auction, Mobile Travel information and booking
Infrastructure ที่ใช้
• WAP (Wireless Application Protocol) - เพื่อสร้าง standard ให้กับการพัฒนา application หรือ software ให้ตรงกับมาตรฐานนี้ หรือเรียกว่า Protocol
• Markup language – ภาษาที่ใช้พัฒนาโปรแกรม เช่น WML, XHTML(เป็นHTML ที่ใช้สำหรับเขียนพวกโปรแกรมสำหรับมือถือต่างๆ)
• Mobile Development - เช่น .NET compact, JAVA ME, Python
• Mobile Emulators – เป็นโปรแกรมที่ทำให้สามารถเล่นโปรแกรมซ้อนโปรแกรมได้ เช่นเล่นเกมส์ผ่าน browser เพราะถ้าลงในคอมเล่นไม่ได้
• Micro browsers - เช่น Android, Safari, IE Mobile, Firefox Mobile
• HTML5 - เทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้หน้าเว็บสามารถ update ตัวเองโดยอัตโนมัติเมื่อนักพัฒนามีการอัพเดตเพิ่มเติม เทคโนโลยีนี้นำมาแก้ปัญหาพวก Flash ที่จำเป็นต้องมีการลง Plug-in ก่อนถึงจะใช้ได้ โดย apple เป็นบริษัทที่พยายามจะพัฒนาและนำพวกนี้มาใช้
ตัวอย่างการทำ M-Commerce
• Mobile Banking ของ K-Bank
• iTunes, App Store ของ Apple
• QR Code
• GPS
• Four Square
• Geo Tagging
• WIMax ปล่อยสัญญาณ wireless, wifi ด้วยเสาขนาดใหญ่ทำให้ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างมาก
• RFID
• Android OS ของ Google พัฒนา OS ให้เหมือน Microsoft แต่ให้ใช้ได้ในมือถือ แล้วขายให้กับค่ายมือถือต่างๆเองแทนที่จะผลิตมาสู้กับ Iphone หรือ BB
• Iphone OS, Blackberry OS
• M-commerce business models
• iTunes เป็นของ Apple ที่ ช่วยแก้ปัญหาด้านรายได้ที่ลดลงของค่ายเพลงที่เกิดจากการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยใช้หลักการ สินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่ผู้บริโภครับได้ ขายเพลงในราคา 99cent
• iBook app store ที่ขาย electronic book เพื่อให้อ่านหนังสือออนไลน์ได้
• Mobile application in sport
• Mobile shopping, Advertising เช่นเมื่อลูกค้าเข้าไปในร้านลูกค้าสามารถดูโปรโมชั่นร้านผ่านมือถือได้
• Location based services and commerce four-square เช่น ถ้าเข้าไป check in ที่ไหนเยอะๆ จนได้เป็น mayor อาจได้สิทธิพิเศษ
• Global Positioning Systems(GPS)
• iPad เป็น Tablet พกพาสะดวก แก้ปัญหาการใช้ netbook ที่มีคีย์บอร์ดขนาดเล็ก และมีจุดเด่นคือไม่ต้องรอเวลาเปิดเครื่อง อีกทั้งยังผนวกกับอุตสาหกรรมหนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ เช่นมีหนังสือพิมพ์ออนไลน์ หรือหนังสือออนไลน์ซึ่งสอดคล้องกับ lifestyle ของคนรุ่นใหม่
• iAd สื่อโฆษณารูปแบบใหม่ที่ทำให้ผู้ใช้มี interactive มากขึ้น ทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้น เป็นมากกว่าการดูโฆษณาอยู่เฉยๆ
• Technical and Limitation ช่องสัญญาณมีจำกัด บางที่อับสัญญาณ
Mobile Robot
เป็น เครื่องจักรกลชนิดหนึ่งที่มีรูปร่าง ลักษณะ ตามวัตถุประสงค์ โดยได้รับคำสั่งมาจากคน เช่น หุ่นยนต์ในงานอวกาศ หุ่นยนต์ในการแพทย์ หรือ หุ่นยนต์ที่อยู่ร่วมกับมนุษย์
ประเภทหุ่นยนต์
1. Fixed Robot เคลื่อนที่ไม่ได้ ขนาดใหญ่ เช่น หุ่นยนต์ที่ใช้ในการผลิตรถยนต์หรือใช้ในทางการแพทย์
2. Mobile Robot สามารถเคลื่อนที่ได้ มีขนาดเล็กลง มีแหล่งจ่ายไฟในตัวเอง มีล้อ หรือ ขาสำหรับเคลื่อนที่ โดยกำลังที่หุ่นเดินได้ทางขามาจาก มอเตอร์ หรือ ระบบไฮดรอลิก ปัจจุบันมีการพัฒนาให้มีการเดินเลียนแบบมนุษย์มากขึ้น
ประโยชน์ของMobile Robot
• ด้านการแพทย์ - ช่วยในการผ่าตัดที่ต้องการความละเอียดสูง หรือใช้ช่วยในการจ่ายยา ทำให้เภสัชกรมีเวลาในการให้คำแนะนำมากขึ้น
• ด้านการวิจัย - ช่วยเก็บข้อมูลในที่ที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปได้ เช่น ในปล่องภูเขาไฟ ใต้ทะเลลึก บนดาวอังคาร เป็นต้น
• ด้านงานอุตสาหกรรม -
• ด้านความมั่นคง - เช่น เครื่องบินที่ใช้สอดแนมในการสงคราม
• ด้านความบันเทิง - เป็นสัตว์เลี้ยง ให้ความบันเทิง เป็นเพื่อนมนุษย์
Virtual World
การจำลองสภาพแวดล้อมให้เหมือนโลกแห่งความเป็นจริง
1. Share space สามารถให้ผู้ใช้หลายๆคนทำกิจกรรมได้พร้อมกัน
2. Graphical user interface นำเสนอเป็นภาพ 2 หรือ 3 มิติ
3. Immediacy โต้ตอบได้ทันที
4. Interactivity
5. Persistence สถานะในระบบจะยังคงอยู่แม้ไม่ได้ล็อคอินอยู่ในระบบ
6. Socialization เกิดเป็นสังคมใหม่
รูปแบบที่นำมาใช้
1. Massive Multiplayer online Role-playing game(MMOPRG) พวกเกมส์ที่ผู้เล่นสวมบทบาทได้เหมือนมีโลกเสมือน เช่น world of warcraft, Ragnarok online
2. Virtual world website(เว็บไซต์โลกเสมือน) ผู้ใช้สามารถสร้าง avatar ของตัวเอง หรือตัวแทนของตัวเองและทำกิจกรรมได้ในโลกออนไลน์โดยถูกออกแบบมาให้เลียนแบบเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตจริง เช่น Clubpenguin.com, Second Life(secondlife.com)
3. เครือข่ายสังคมออนไลน์
4. ร้านค้าเสมือนจริง
5. การท่องเที่ยวเสมือนจริง เช่น Palace.thai.net
E-book Reader
เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือ E-book ได้ง่ายโดยมีทั้งเป็นตัวอักษร ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว สามารถเก็บในรูปแบบต่างๆ เช่น PDF, DOC, JPG etc. มีระบบการแสดงผล 2 แบบ ได้แก่
1. LCD เหมือนจอคอมพิวเตอร์ทั่วไป ข้อเสียคืออาจทำให้สายตาล้าด่าย
2. E Ink เป็นการทำให้จอแสดงผลคล้ายภาพธรรมชาติกระดาษทั่วไป คือเลียนแบบหมึกบนกระดาษทำให้อ่านได้นานกว่าแบบ LCD แต่ต้องอาศัยแสงธรรมชาติในการอ่านเช่นเดียวกับการอ่านหนังสือจริงๆ
E-book reader เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถเก็บหนังสือได้จำนวนมาก แต่ทั้งนี้ปัจจุบันยังมีการใช้งานไม่แพร่หลายทำให้มีข้อมูลค่อนข้างน้อยและมีราคาสูง
ดั่งชนก ตรีรัตน์ศิริกุล 5202113162
วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553
AI614_Class6_14 Dec 2010
AI614_Class6_14 Dec 2010
E-Business and E-commerce
ตัวอย่าง Dell - เป็นบริษัทที่ใช้ระบบ E-commerce ในการดำเนินงาน ลูกค้าสั่งซื้อ Laptop ผ่านเว็ปไซต์สามารถระบุสเปคเครื่องเองได้ เป็นการผลิตแบบ Customization ซึ่งทำให้สามารถตั้งราคาสูงได้ ในขณะที่คู่แข่งของ Dell ขายสินค้าผ่านทางหน้าร้าน
ตัวอย่าง Ebay - เป็นเว็ปไซต์ประมูล ทำให้ผู้ขายสามารถขายสินค้าได้ในราคาที่สูงขึ้น เนื่องจาก Information Asymmetry กำไรค่อนข้างดี เพราะเวลาผู้ซื้อบิดได้ จะรู้สึกพอใจมากขึ้น(ได้ชนะการบิด)
ตัวอย่าง Amazon - เป็นเว็ปขายสินค้าสินค้า เริ่มจากขายหนังสือก่อน เพราะมีหนังสือจำนวนที่ไม่ค่อยมีคนอ่านและหายาก เชื่อว่าจะขายได้เพราะใช้เทคนิคที่เรียกว่า long tail (สินค้าบางประเภทจะขายดีมาก ประมาณ 10%ของลูกค้าจะซื้อสินค้าชนิดนี้ แต่ก็ยังมีสินค้าประเภทอื่นที่ไม่เป็นที่นิยมมากนักแต่ก็ยังมีลูกค้าส่วนที่เหลือสนใจ)
Click & Mortar เป็นบริษัทที่มีการขายทั้ง online และ offline
Brick and Mortar เป็นบริษัทที่มีการขายแบบ offline อย่างเดียว
รูปแบบของ E-Business แบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้
1. Business-to-Business (B2B)
2. Business-to-Consumer (B2C)
3. Consumer-to-Consumer (C2C)
E-commerce Model
· Affiliate marketing หาคู่ค้า โดย ให้ code affiliate ประจำตัวต่อคู่ค้าแต่ละคน เมื่อมีลูกค้าซื้อสินค้าผ่านการเชื่อมโยงมาจากเว็ปไซต์ของคู่ค้า คู่ค้าจะได้เปอร์เซ็นต์จากการขาย
· Batering เว็ป www.craigslist.com คนใช้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันฟรี เช่น แลกของ ซื้อของ, Couchsurfing.com คล้าย facebook ของนักท่องเที่ยว ถ้าไปเที่ยวที่ที่มีสมาชิกอยู่ก็ไปนอนบ้านเค้าก็ได้ หรือPriceline.com ใช้เวลาซื้อตั๋วเครื่องบิน โดยให้ลูกค้าแจ้งราคาที่ต้องการเข้าไป แล้ว Priceline ทำหน้าที่ Matching
· Online Advertisers, Marketers & Students เช่น facebook
· Company-sponsored Socially Oriented Sites เช่น eblogger
· API คือ Application Programming Interface เช่น iphone มี app เยอะ พวกนักพัฒนาจะต้องมี code API ของ apple เพื่อเอาไปสร้าง app เพื่อมาใช้กับ iphone apple ได้, Paypal ดีกว่าการตัดบัตรเครดิตปกติตรงที่มีความปลอดภัย และสามารถปริ้นใบเสร็จจาก Paypal แล้วเอาไปจ่ายเงินสดที่ธนาคารได้ นอกจากนี้ยังมี youtube และ google map
ประโยชน์ของ E-Commerce
1 สามารถเปิดให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
2 ตัดปัญหาเรื่องการต่อรองราคาสินค้า
3 ลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร
4 ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมมีโอกาสมากขึ้น ทั้งโอกาสในการขายและการเปิดตลาดใหม่
5 โอกาสทางธุรกิจเท่าเทียมกัน
6 การประชาสัมพันธ์ทำได้ง่ายขึ้น
ข้อจำกัดของ E-commerce
1. Technology limitation
2. Security มีโอกาสโดนปลอมแปลงบัตรเครดิต
3. ขาดความรู้ด้านกฎหมายการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
Social Commerce ลูกค้ามักซื้อของถ้าได้รับคำแนะนำจากเพื่อน คนรู้จักมากกว่าการโฆษณา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า Facebook เริ่มมีอิทธิพลต่อสังคมออนไลน์อย่างมาก และอาจกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของ Google หาก Facebook สามารถสร้าง Search engine ของตนเองขึ้นมาได้ Search Engine ของ facebook จะสามารถค้นหาความคิดเห็นที่มีต่อสินค้านั้นๆได้มากกว่า Google
Presentation
Cloud computing คือวิธีการประมวลผลที่อิงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยเมื่อผู้ใช้ระบุความต้องการไปยังระบบ ระบบจะทำการจัดสรรทรัพยากรและบริการให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ สามารถขยายหรือปรับเปลี่ยนได้ตาม Service Provider มีลักษณะที่สำคัญ 5 ประการ
1.On demand
2.Board Network Access
3.Resource Pooling
4.Rapid Elasticity
5.Measured Service
ประโยชน์ของ Cloud computing มีอยู่หลายประการ ได้แก่
Concern
* Privacy and security เพราะจะต้องฝากข้อมูลไว้ให้คนอื่นเก็บ
* Non-standard platform ไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน เพราะสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของแต่ละองค์กร
* Reliability ความมั่นคงหรือความน่าเชื่อถือ เพราะถ้าระบบล่ม องค์กร จะทำงานต่อไปอย่างไร
* Portability ใช้ได้สะดวก ผ่าน Internet
Health Informatics คือการนำข้อมูลทางด้านสุขภาพมาผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อใช้ในการจัดการทรัพยากร, เครื่องใช้ต่างๆ และนำมาพัฒนาปรับปรุงวิธีการได้มา, การเก็บรักษา และการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เกี่ยวสุขภาพ
ระบบสารสนเทศสุขภาพ (Health Information) หมายถึง สารสนเทศที่เกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมถึงข้อมูลด้านทรัพยากรสาธารณสุข และกิจกรรมสาธารณสุข โดยสารสนเทศสุขภาพ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
1. ข้อมูลด้านประชากร เศรษฐกิจและสังคม
2. ข้อมูลด้านสุขภาพ
3. ข้อมูลด้านทรัพยากรสาธารณสุข
4. ข้อมูลด้านกิจกรรมสาธารณสุข
5. ข้อมูลด้านการบริหารจัดการ
ระบบสารสนเทศสาธารณสุข จำแนกตามภารกิจแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ เพื่อการบริหาร, เพื่อการบริการ และ เพื่องานวิชาการ
ตัวอย่างการใช้ Health informatics เช่น ระบบบันทึกการรักษาผู้ป่วย, ระบบบันทึกการ admit ของผู้ป่วย,ระบบบันทึกอุปกรณ์การแพทย์
ประโยชน์ของ Health informatics การนำข้อมูลด้านสุขภาพมาเชื่อมโยงกับระบบสารสนเทศ จะช่วยให้การบริการด้านสาธารณสุขเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความผิดพลาด เพิ่มคุณภาพการรักษาพยาบาล รวมทั้งสามารถวางแผนการใช้ทรัพยากรไม่ว่าจะเป็นทางด้านบุคคลหรืออุปกรณ์ได้เพียงพอต่อความต้องการ
Web 2.0
มีลักษณะสำคัญ 7 ประการ คือ
1. Network as platform สามารถใช้งานผ่าน Web Browser ได้
2. ผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของข้อมูลบน "website" นั้น สามารถดำเนินการใดๆ ก็ได้กับข้อมูลนั้น
3. ผู้ใช้มีส่วนร่วมมากขึ้นไม่ใช่แค่อ่านได้อย่างเดียว แต่ยังสามารถสร้าง content เองได้ ตัวอย่างเช่น Digg, Flickr, Youtube , Wiki
4. มี User interface ที่ดีขึ้น
5. สามารถโต้ตอบกันได้
6. มีความรวดเร็วและง่ายในการส่งข้อมูลมากขึ้น
7. มีการเอา Function ใช้งานจากหลายเว็บรวมเข้าด้วยกัน
เปรียบเทียบ Web 1.0 กับ Web 2.0
Web 1.0 จะเป็นการสื่อสารทางเดียว คือจากเจ้าของเว็ปไซต์ซึ่งเป็นคนเดียวเท่านั้นที่สามารถใส่ข้อมูลลงในเว็บนั้นได้ แต่ Web 2.0 ทั้งเจ้าของและผู้ใช้สามารถโต้ตอบกันได้
เทคโนโลยีที่ช่วยทำให้เว็บทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น AJAX ทำให้เว็ปทำงานเร็วขึ้น, SaaS(Software as service) เป็นซอฟแวร์บนเว็บที่ให้บริการโดยไม่ต้องซื้อ, RSS เป็นการอัพเดต content,ข้อมูลใหม่ๆ
ตัวอย่างเว็บไซต์ยุค Web 2.0 ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก YouTube, MySpace, Facebook, Wikipedia
Dungchanok 5202113162
E-Business and E-commerce
ตัวอย่าง Dell - เป็นบริษัทที่ใช้ระบบ E-commerce ในการดำเนินงาน ลูกค้าสั่งซื้อ Laptop ผ่านเว็ปไซต์สามารถระบุสเปคเครื่องเองได้ เป็นการผลิตแบบ Customization ซึ่งทำให้สามารถตั้งราคาสูงได้ ในขณะที่คู่แข่งของ Dell ขายสินค้าผ่านทางหน้าร้าน
ตัวอย่าง Ebay - เป็นเว็ปไซต์ประมูล ทำให้ผู้ขายสามารถขายสินค้าได้ในราคาที่สูงขึ้น เนื่องจาก Information Asymmetry กำไรค่อนข้างดี เพราะเวลาผู้ซื้อบิดได้ จะรู้สึกพอใจมากขึ้น(ได้ชนะการบิด)
ตัวอย่าง Amazon - เป็นเว็ปขายสินค้าสินค้า เริ่มจากขายหนังสือก่อน เพราะมีหนังสือจำนวนที่ไม่ค่อยมีคนอ่านและหายาก เชื่อว่าจะขายได้เพราะใช้เทคนิคที่เรียกว่า long tail (สินค้าบางประเภทจะขายดีมาก ประมาณ 10%ของลูกค้าจะซื้อสินค้าชนิดนี้ แต่ก็ยังมีสินค้าประเภทอื่นที่ไม่เป็นที่นิยมมากนักแต่ก็ยังมีลูกค้าส่วนที่เหลือสนใจ)
Click & Mortar เป็นบริษัทที่มีการขายทั้ง online และ offline
Brick and Mortar เป็นบริษัทที่มีการขายแบบ offline อย่างเดียว
รูปแบบของ E-Business แบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้
1. Business-to-Business (B2B)
2. Business-to-Consumer (B2C)
3. Consumer-to-Consumer (C2C)
E-commerce Model
· Affiliate marketing หาคู่ค้า โดย ให้ code affiliate ประจำตัวต่อคู่ค้าแต่ละคน เมื่อมีลูกค้าซื้อสินค้าผ่านการเชื่อมโยงมาจากเว็ปไซต์ของคู่ค้า คู่ค้าจะได้เปอร์เซ็นต์จากการขาย
· Batering เว็ป www.craigslist.com คนใช้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันฟรี เช่น แลกของ ซื้อของ, Couchsurfing.com คล้าย facebook ของนักท่องเที่ยว ถ้าไปเที่ยวที่ที่มีสมาชิกอยู่ก็ไปนอนบ้านเค้าก็ได้ หรือPriceline.com ใช้เวลาซื้อตั๋วเครื่องบิน โดยให้ลูกค้าแจ้งราคาที่ต้องการเข้าไป แล้ว Priceline ทำหน้าที่ Matching
· Online Advertisers, Marketers & Students เช่น facebook
· Company-sponsored Socially Oriented Sites เช่น eblogger
· API คือ Application Programming Interface เช่น iphone มี app เยอะ พวกนักพัฒนาจะต้องมี code API ของ apple เพื่อเอาไปสร้าง app เพื่อมาใช้กับ iphone apple ได้, Paypal ดีกว่าการตัดบัตรเครดิตปกติตรงที่มีความปลอดภัย และสามารถปริ้นใบเสร็จจาก Paypal แล้วเอาไปจ่ายเงินสดที่ธนาคารได้ นอกจากนี้ยังมี youtube และ google map
ประโยชน์ของ E-Commerce
1 สามารถเปิดให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
2 ตัดปัญหาเรื่องการต่อรองราคาสินค้า
3 ลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร
4 ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมมีโอกาสมากขึ้น ทั้งโอกาสในการขายและการเปิดตลาดใหม่
5 โอกาสทางธุรกิจเท่าเทียมกัน
6 การประชาสัมพันธ์ทำได้ง่ายขึ้น
ข้อจำกัดของ E-commerce
1. Technology limitation
2. Security มีโอกาสโดนปลอมแปลงบัตรเครดิต
3. ขาดความรู้ด้านกฎหมายการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
Social Commerce ลูกค้ามักซื้อของถ้าได้รับคำแนะนำจากเพื่อน คนรู้จักมากกว่าการโฆษณา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า Facebook เริ่มมีอิทธิพลต่อสังคมออนไลน์อย่างมาก และอาจกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของ Google หาก Facebook สามารถสร้าง Search engine ของตนเองขึ้นมาได้ Search Engine ของ facebook จะสามารถค้นหาความคิดเห็นที่มีต่อสินค้านั้นๆได้มากกว่า Google
- Electronic Catalogs เช่น JCPenney, the home depot
- E-Auctions เช่น uBid, ebay, DellAuction ทำให้ผู้ขายไม่ถูกกดราคาเหมือนการขายในตลาดทั่วไป
- E-classifieds เช่น Paypal, EbayMotors, Half.com
- Customer service online เช่น Dtac , True
- Electronic Malls เช่น MSN Shopping, Cash back stores, Choice mall, We love shopping, Allibaba
- Batering&Negociation เวปสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้า พวก B2B Auction เช่น TARADB2B.COM เป็นเวบไซด์ขายของของเมืองไทยที่เพิ่งขายให้ญี่ปุ่นไป เข้ามาซื้อของได้ทั้งคนไทยและต่างชาติ
- Electronic Storefront มีการขายทั้ง online และ offline ข้อดีอยู่ตรงที่ลูกค้าจะมีหลายกลุ่ม หรือเวลาจะคืนของก็สามารถไปเคลมคืนที่ร้านได้ แต่ก็มีข้อเสียคือต้นทุนสูง จะต้องแยกการจัดการระหว่างร้าน online และ ร้านoffline
- Electronic Malls เช่น MSN Choice Mall พยายามให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือนไปห้างมากที่สุดOnline Job Market เช่น Jobsdb.com, jobtopgun.com
- Travel Service เช่น Expedia, Carnival, Travelocity, Hotwire.com
- Real-estate online
- Major Models of E-business : From E-Government to C2C เช่น B2E, E2E, E-collaborative, E-Government(E-Government คือ การที่ส่วนราชการใช้ Internet และ Website เข้ามาช่วยในกระบวนการต่าง เช่นการจ่ายภาษี หรือการประมูลงานของรัฐ)
- การจ่ายเงินออนไลน์ เช่น Electronic funds transfer , Electronic checks
Presentation
Cloud computing คือวิธีการประมวลผลที่อิงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยเมื่อผู้ใช้ระบุความต้องการไปยังระบบ ระบบจะทำการจัดสรรทรัพยากรและบริการให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ สามารถขยายหรือปรับเปลี่ยนได้ตาม Service Provider มีลักษณะที่สำคัญ 5 ประการ
1.On demand
2.Board Network Access
3.Resource Pooling
4.Rapid Elasticity
5.Measured Service
ประโยชน์ของ Cloud computing มีอยู่หลายประการ ได้แก่
- Cost saving นอกจากองค์กรจะสามารถนำ IT มาใช้งานได้ง่ายแล้วยังช่วยลดต้นทุนการลงทุนด้าน IT อีกด้วยเนื่องจากการให้บริการผ่าน Cloud Computing เป็นระบบการให้บริการแบบ Share ทรัพยากรทั้งส่วนจัดเก็บข้อมูล Application และการประมวลผลบนInternet จึงเกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of scale)
- Scalability ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการเฉพาะอย่างและเลือกเสียค่าใช้จ่าย ให้ตรงกับความต้องการเฉพาะด้านหรือสอดคล้องกับงบประมาณของตนได้
- Access to top-end IT capabilities ทำให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรด้าน IT ที่ดีได้ โดยไม่ต้องมีเงินลงทุนจำนวนมาก
- Focusing on core competencies ทำให้องค์กรสามารถFocusจุดแข็งขององค์กรได้ โดยไม่ต้องแบ่งมาลงทุนด้าน IT
- Efficient asset utilization ใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Concern
* Privacy and security เพราะจะต้องฝากข้อมูลไว้ให้คนอื่นเก็บ
* Non-standard platform ไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน เพราะสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของแต่ละองค์กร
* Reliability ความมั่นคงหรือความน่าเชื่อถือ เพราะถ้าระบบล่ม องค์กร จะทำงานต่อไปอย่างไร
* Portability ใช้ได้สะดวก ผ่าน Internet
Health Informatics คือการนำข้อมูลทางด้านสุขภาพมาผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อใช้ในการจัดการทรัพยากร, เครื่องใช้ต่างๆ และนำมาพัฒนาปรับปรุงวิธีการได้มา, การเก็บรักษา และการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เกี่ยวสุขภาพ
ระบบสารสนเทศสุขภาพ (Health Information) หมายถึง สารสนเทศที่เกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมถึงข้อมูลด้านทรัพยากรสาธารณสุข และกิจกรรมสาธารณสุข โดยสารสนเทศสุขภาพ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
1. ข้อมูลด้านประชากร เศรษฐกิจและสังคม
2. ข้อมูลด้านสุขภาพ
3. ข้อมูลด้านทรัพยากรสาธารณสุข
4. ข้อมูลด้านกิจกรรมสาธารณสุข
5. ข้อมูลด้านการบริหารจัดการ
ระบบสารสนเทศสาธารณสุข จำแนกตามภารกิจแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ เพื่อการบริหาร, เพื่อการบริการ และ เพื่องานวิชาการ
ตัวอย่างการใช้ Health informatics เช่น ระบบบันทึกการรักษาผู้ป่วย, ระบบบันทึกการ admit ของผู้ป่วย,ระบบบันทึกอุปกรณ์การแพทย์
ประโยชน์ของ Health informatics การนำข้อมูลด้านสุขภาพมาเชื่อมโยงกับระบบสารสนเทศ จะช่วยให้การบริการด้านสาธารณสุขเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความผิดพลาด เพิ่มคุณภาพการรักษาพยาบาล รวมทั้งสามารถวางแผนการใช้ทรัพยากรไม่ว่าจะเป็นทางด้านบุคคลหรืออุปกรณ์ได้เพียงพอต่อความต้องการ
Web 2.0
มีลักษณะสำคัญ 7 ประการ คือ
1. Network as platform สามารถใช้งานผ่าน Web Browser ได้
2. ผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของข้อมูลบน "website" นั้น สามารถดำเนินการใดๆ ก็ได้กับข้อมูลนั้น
3. ผู้ใช้มีส่วนร่วมมากขึ้นไม่ใช่แค่อ่านได้อย่างเดียว แต่ยังสามารถสร้าง content เองได้ ตัวอย่างเช่น Digg, Flickr, Youtube , Wiki
4. มี User interface ที่ดีขึ้น
5. สามารถโต้ตอบกันได้
6. มีความรวดเร็วและง่ายในการส่งข้อมูลมากขึ้น
7. มีการเอา Function ใช้งานจากหลายเว็บรวมเข้าด้วยกัน
เปรียบเทียบ Web 1.0 กับ Web 2.0
Web 1.0 จะเป็นการสื่อสารทางเดียว คือจากเจ้าของเว็ปไซต์ซึ่งเป็นคนเดียวเท่านั้นที่สามารถใส่ข้อมูลลงในเว็บนั้นได้ แต่ Web 2.0 ทั้งเจ้าของและผู้ใช้สามารถโต้ตอบกันได้
เทคโนโลยีที่ช่วยทำให้เว็บทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น AJAX ทำให้เว็ปทำงานเร็วขึ้น, SaaS(Software as service) เป็นซอฟแวร์บนเว็บที่ให้บริการโดยไม่ต้องซื้อ, RSS เป็นการอัพเดต content,ข้อมูลใหม่ๆ
ตัวอย่างเว็บไซต์ยุค Web 2.0 ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก YouTube, MySpace, Facebook, Wikipedia
Dungchanok 5202113162
วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2553
AI613 Class 5 _7 Dec 2010
ตัวอย่าง Case California
ปัญหา – IT infrastructure เริ่มไม่มีประสิทธิภาพไม่สามารถเชื่อมต่อกับคู่ค้าได้ ประมาณว่าถึงจุดอิ่มตัว
แก้ไข – replace server โดยใช้ web farms แทน
ผลลัพธ์ – ภายใน 1 ปีน่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกลับมา 7.5 ล้านดอลล่าร์ ส่งของให้ลูกค้าได้เร็วขึ้น ลดต้นทุน บริหารจัดการการรักษาความปลอดภัยได้ดีขึ้น
เมื่อดู Projected Cost and benefits ปีแรกๆจะเป็นการลงทุน ปีถัดมาก็จะเริ่มมีกำไร มี NPV ประมาณ 21 ล้าน
- เค้าคาดว่า power of computer chip มีคุณภาพดีขึ้นทวีคูณ ในทุกๆเดือนในขณะที่ต้นทุนยังคงที่
- มีโอกาสที่องค์กรจะซื้อของดีในราคาที่ถูกมากขึ้น
- เพราะฉะนั้น Price to performance ratio ควรลดลงแบบ exponential เลยห
- เมื่อถึงจุดหนึ่งเทคโนโลยี silicon-based chip จะถึงจุดอิ่มตัว ต้องเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีอื่น
Productivity Paradox
= the contradiction between the advances in computer power and the slow growth of productivity at the level of the whole economy
สาเหตุที่เกิด เช่น
- Productivity gain วัดได้ยากไม่สามารถแสดงผลให้เห็นได้ชัดเจน
- Productivity gain ไป offset กับการลงทุนใน IT ซึ่งทำให้เสียโอกาสในการลงทุนด้านอื่น
- การลงทุนใน IT ใช้ต้นทุนสูง benefit ที่ได้อาจได้ช้าหรือไม่คุ้ม
- อาจมีเหตุผลอื่น เช่น Legal ทำให้ผลลัพธ์ไปเป็นไปตามที่คาด
Does Productivity Paradox still matter?
First impact ลงทุน IT แล้วได้รับผลโดยตรง เช่น ได้กำไร
Second impact ลงทุน IT แล้วได้รับผลในทางอ้อม เช่น ภาพลักษณ์ดีขึ้น
Evaluating IT investments
ต้องมีการ Justify ลงทุนหมดเลยไม่ได้ ในยุคแรกๆคนไม่ค่อยประเมินงบประมาณอาจเป็นเพราะ ไม่รู้จักเครื่องมือในการคำนวณ ROI และไม่มีการวัดผลการดำเนินงานหลังจากมีการลงทุน
Justify IT Investments?
ง่ายสุดใช้ cost & benefit analysis (Traditional) ลงทุน IT มี 2 ลักษณะ คือ Infrastructure กับ Application
ต่อมาองค์กรเริ่มค้นพบว่า IT ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งหมด จำเป็นต้องมีการจัดการให้สอดคล้องกับระบบนั้นๆด้วย เพราะฉะนั้นเวลาเห็นระบบใหม่ๆจึงไม่ได้ตัดสินใจลงทุนทันที มีการวิเคราะห์ก่อน
เวลามีข่าวเกี่ยวกับการลงทุน stock price จะราคาสูงขึ้น
ต้องมีการประเมิน periodic เกี่ยวกับผลของการลงทุน IT นั้นๆ
บาง IT project ที่ justify ได้เลยว่าต้องทำหรือไม่ต้องทำ โดยไม่ต้องทำ cost & benefit analysis เช่น อะไรที่ข้อมูลไม่เพียงพอ อาจใช้ qualitative analysis แทน, บางทีสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กร ก็ต้องลงทุน
The IT Justification Process
- conduct ROI
- Conduct good research
- Justify, clarify and cost& benefits assumptions
- Risk analysis
- Not to underestimate costs and overestimate benefits
- Commit all partners
Difficulties in Measuring Productivity & Performance Gains
- Incorrectly เช่น มันส่งผลกระทบหลายทาง ทำให้วัดได้ยาก
- Time lags
- ผลกระทบของการลงทุน IT วัดจากการดำเนินงานขององค์กรได้ยาก
Intangible Benefits
- วัดความพอใจ
- ประสิทธิภาพในการสื่อสารของพนักงาน
Handling Intangible benefits ถ้าเราประเมิน benefit สูงไป ทำให้การลงทุนไม่มีประสิทธิภาพ
- Rough estimates of monetary value for all intangible benefits
- Think broadly and softly วัดมูลค่าของ customer&partner satisfaction, customer loyalty, response time to competitive actions
- Pay your freight first
- Follow the unanticipated เปิดใจรับผลลัพธ์ของการลงทุน IT ทุกทาง
Costing IT Investment
พยายามรักษา fixed costs ให้อยู่ในระดับเท่าเดิม
Transaction costs:
- Search
- Information ลูกค้าย่อมต้องการรู้จักสินค้าและผู้ผลิตสินค้า , ผู้ผลิตสินค้าต้องทำความเข้าใจด้านกฎหมาย,ต้นทุน และความต้องการของลูกค้า
- Negotiation
- Decision ผู้ซื้อหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจซื้อ, ผู้ขายต้องตัดสินใจว่าจะขายลูกค้าคนไหนหรือไม่ขายเลย
- Monitoring ต้องดูว่าหลังจากซื้อสินค้าแล้ว ยังมีบริการที่ดี และ คุณภาพมีสินค้าที่มีคุณภาพเหมือนเดิม
Revenue Models generated by IT&Web
- Sales เช่น เปิดเว็บขายของ
- Transaction fees เช่น EBAY , บริษัทรับจองตั๋วต่างๆ
- Subscription fees เช่น เว็บให้ดาวน์โหลดเร็วขึ้น
- Advertising fees เช่น GOOGLE
- Affiliate fees เช่น AGODA เอาแบนเนอร์มาแปะ แล้วพอมีคนเข้าไปซื้อโดยผ่าน Channel เราเราก็จะได้เงิน
Cost & Benefit Analysis
- เราจะลงทุนก็ต่อเมื่อ benefit มากกว่า cost
- อย่างน้อยต้องได้ return มากกว่าฝากเงินกับธนาคาร
- ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
2 steps
- Identifying & estimating all cost and benefits
- Expressing these costs and benefits in common units
Cost:
Development,Setup ติดตั้ง hardware and Operational
Benefits: Direct benefits, Assessable indirect benefits เช่น ความพึงพอใจลูกค้า and Intangible benefits
Intangibles in economic feasibility
ประโยชน์วัดไม่ได้เป็นตัวเงิน เช่น การบริการที่ดีขึ้น,ความพึงพอใจของลูกค้า, Survival(เช่นธนาคารต้องมีตู้ ATM) และ ความจำเป็นในการพัฒนาความเชี่ยวชาญภายในองค์กร
ต้นทุนวัดไม่ได้เป็นตัวเงิน เช่น Reduced employee morale, lost productivity, lost customers or sales
Cash Flow Forecasting ประเมินตัวเงินที่คาดว่าจะได้ จะมีรายรับรายจ่ายเกิดขึ้นเมื่อไร การคาดการณ์ future cash flows โดยปกติจะ ignore the effects of inflation
Cost-Benefit Evaluation Techniques
- Net profit ข้อเสียงคือไม่คำนึงถึงผลตอบแทนแต่ละปี ไม่คำนึงถึงค่าเงินตามเวลา
- Payback Period ไม่มีว่ามี Net Profit เท่าไร
- Return on investment (ROI)
- Net present value(NPV) ความยากอยู่ตรงที่จะเลือก discount rate เท่าไร เช่นต้องไปกู้เงินมาเท่าไร (MLR+/-)
- Interest rate of return (IRR) มองหาจุดที่ NPVเท่ากับ 0 วัดProfitability ได้ดีกว่า NPV เพราะ NPV ไม่ได้เทียบเป็น percentage สามารถใช้ excel คำนวณได้
การเลือกใช้เครื่องมือ ต้องเลือกใช้ตามความเหมาะสม เช่น เราเน้นลงทุนในโครงการที่ได้ผลตอบแทนเร็ว เพราะฉะนั้นอาจใช้ Payback Period
ตัวอย่าง FREP Business case เป็นตัวอย่างการวิเคราะห์การลงทุน มี Risk Analysis ด้วย
http://www.for.gov.bc.ca/hfp/frep/site_files/ciworkshop2007/tab10/business-case-frep-handheld.pdf. (ตัวอย่าง case)
TCO : total cost of ownership
Cost includes : acquisition, operations and control
บางทีเอามาวิเคราะห์คู่กับ TBO แล้วดู payoff ว่าเป็นยังไง มีตัวอย่างการคำนวณ TCO
Benchmarks วัดในเชิง Objective
เทียบกับ Industry, efficient performers
ตัวอย่าง http://www.for.gov.bc.ca/hfp/frep/site_files/ciworkshop2007/tab10/business-case-frep-handheld.pdf.
จะเปรียบเทียบกับได้เราต้องวัดด้วยหน่วยเดียวกัน เช่น ทำให้เป็น per hour
Balanced scorecard method
มองผลทางด้านอื่นนอกจากการเงินด้วย เช่น business process, learning and growth เกี่ยวข้องกับ goal ขององค์กรยังไง
- Financial เพิ่มกำไร รายได้ ลดต้นทุน
- Customer ลูกค้าได้ความพึงพอใจเพิ่มขึ้นไหม รักษาฐานลูกค้าได้หรือไม่
- Internal Process เพิ่ม Productivity ไหม คุณภาพดีขึ้นไหม ลดเวลาในการทำงานหรือไม่
- Learning and Growth skillของพนักงานดีขึ้นไหม อัตราการลาออกของพนักงาน Turnover
E-Procurement Metrics
ทำให้ purchase order processing time ลดลง เช่น เลือก suppliers, ส่ง order, ออก P.O., ส่งสินค้าได้ตรงเวลา ,ลูกค้าปฏิเสธการรับสินค้าลดลง
CRM เมื่อทำแล้ววิเคราะห์ว่าผลการจากทำ Marketing ดีขึ้นหรือไม่อย่างไร
E-commerce
เป็น web-based systems แต่ว่าต้องลงทุนเพราะว่าเป็นการสนับสนุนกลยุทธ์ขององค์กร ไม่ใช่มีเว็บเพื่อเป็นไปตาม trend เหมือนสมัยที่ .com boom
Cost
สำหรับ Regular Product แรกๆต้นทุนจะสูง ต่อมาจะลดลงเพราะมี economy of scale และจะสูงขึ้นอีกเพราะไม่สามารถลดต้นทุนได้แล้ว แตกต่างจาก digital product ที่เมื่อต้นทุนลดลงแล้วจะลดลงเลย
Production Function , Transaction Cost และ Administrative Cost ถ้ามี EC จะช่วยทำให้ต้นทุนลดลง ทำให้ บริษัทที่มี EC มักจะมี Richness มากกว่าบริษัทที่ไม่มี
Where costs of IT investment go?
บางทีไปชาร์จที่บัญชี Overhead
หรืออาจไปชาร์จที่ผู้ใช้ ชาร์จตามการใช้งาน เรียกว่า chargeback เช่น โหลดกี่ mb การ chargeback ทำให้รู้ข้อมูลการใช้งาน ว่าช่วงไหน peak จะได้จัดการบริหารได้ถูกต้อง
Failure & Runaway Project
- ทำ cost benefits analysis ไม่ถูกต้อง หรือ เกิดจาก Economic issues
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงถ้าเราเป็นผู้บริหาร Managerial Issues
- ในปัจจุบันบางที IT เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ เช่น Google , Facebook
- ต้องพร้อมปรับตัวเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
- เมื่อก่อนมองแต่ tangible benefit เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันมีความจำเป็นต้องมอง intangible benefit ด้วย บางทีผลอาจต้องใช้เวลา
- Chargeback เช่น ถ้าใช้ไฟน้อยกว่า 200 บาท ใช้ฟรี เพื่อสร้าง incentive
- Risk ต้องวิเคราะห์ทุกความเสี่ยงที่เป็นไปได้และโอกาสที่จะเกิดขึ้นรวมทั้ง ระดับความเสียหาย
- เลือกใช้เครื่องมือในการวัดผล IT investment ทั้ง financial และ non-financial
- คนที่ทำการ justification อาจตั้ง committee ขึ้นมา
ดั่งชนก ตรีรัตน์ศิริกุล 5202113162
วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553
AI613 Class 4 _30 Nov 2010
Outsourcing, Offshoring, and IT as a subsidiary
เหตุผลที่ต้อง Outsourcing
- Focus on core competency
- Cost reduction
- Improve quality
- Increase speed to market
- Faster Innovation
Outsourcing Agreement
- Transactional outsourcing agreements ตัด processที่ชัดเจนให้คนอื่นทำ
- Co-sourcing alliances ร่วมกันพัฒนากับคู่ค้า
- Strategic partnership (single outsourcer)
Potential Outsourcing Benefits
- ลด cost
- Focus on core competency
- ไม่ต้องเสียเวลา trainคน
- ควบคุมคุณภาพได้ดีขึ้น
- ยืดหยุ่นในการทำงาน
Risk Associated with Outsourcing
- Shirking คือ ผู้ให้บริการไม่ทำงานเต็มที่ เพราะยังไงก็ได้รับเงินเต็มจำนวนตามสัญญา
- Poaching คือ ผู้ให้บริการนำเทคโนโลยีไปขายให้กับผู้อื่นด้วย
- Opportunistic repricing คือ ทำสัญญาระยะยาวไว้แต่ผู้ที่รับจ้างทำงานกลับคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Hidden costs of outsourcing
- Benchmarking & Analysis ต้นทุนในการวิเคราะห์และประเมินทางเลือก
- Contracting with a vendor ต้นทุนในการติดต่อสื่อสารกับคนที่เราจะจ้าง
- Transmitting work ต้นทุนในขั้นตอนการ transfer ความรู้ต่างๆ
- Management of outsourcing relationship ต้นทุนในการส่งพนักงานของเราไปร่วมทำงานกับผู้ที่ทำให้
- Transitioning back to in-house ต้นทุนในการโอนงานกลับมาภายในองค์กร
วิธีจัดการความเสี่ยง
- Understand project
- Divide & conquer
- Align incentives
- Write short-period contracts
- Control subcontracting
- Do selective outsourcing
offshore outsourcing คือ การ outsource ไปยังที่อื่น นอกเหนือจากที่ client อยู่ เช่น บริษัทอยู่ในประเทศไทย แต่ outsource ให้บริษัทในประเทศจีนผลิตสินค้า ซึ่งจะต้องระมัดระวังเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรม
ปัจจัยในการทำ offshore outsourcing
- สภาพแวดล้อมทางธุรกิจและกฎหมายของประเทศนั้นๆ
- คุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
- ความเสี่ยงด้าน IT, Human capital, เศรษฐกิจ และอื่นๆ
ความเสี่ยงสำหรับ offshore outsourcing
* Cost-reduction expectation คาดหวังว่าจะสามารถลดต้นทุนได้
* Data Security ความปลอดภัยของข้อมูล
* Process discipline อาจทำให้องค์กรไม่สนใจที่จะพัฒนางานส่วนที่ให้ผู้อื่นทำ
* Loss of business knowledge ความรู้ของธุรกิจอาจหายไป
* Vendor failure to deliver
* ความต้องการในระบบเพิ่มขึ้นตลอดเวลา (Scope creep)
* Regulation
* ความแตกต่างทางวัฒนธรรม
* ผู้ที่ดูแลงานของเราลาออก ทำให้งานหยุดชะงัก
* Knowledge Transfer
เหตุผลที่ต้อง Outsourcing
- Focus on core competency
- Cost reduction
- Improve quality
- Increase speed to market
- Faster Innovation
Outsourcing Agreement
- Transactional outsourcing agreements ตัด processที่ชัดเจนให้คนอื่นทำ
- Co-sourcing alliances ร่วมกันพัฒนากับคู่ค้า
- Strategic partnership (single outsourcer)
Potential Outsourcing Benefits
- ลด cost
- Focus on core competency
- ไม่ต้องเสียเวลา trainคน
- ควบคุมคุณภาพได้ดีขึ้น
- ยืดหยุ่นในการทำงาน
Risk Associated with Outsourcing
- Shirking คือ ผู้ให้บริการไม่ทำงานเต็มที่ เพราะยังไงก็ได้รับเงินเต็มจำนวนตามสัญญา
- Poaching คือ ผู้ให้บริการนำเทคโนโลยีไปขายให้กับผู้อื่นด้วย
- Opportunistic repricing คือ ทำสัญญาระยะยาวไว้แต่ผู้ที่รับจ้างทำงานกลับคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Hidden costs of outsourcing
- Benchmarking & Analysis ต้นทุนในการวิเคราะห์และประเมินทางเลือก
- Contracting with a vendor ต้นทุนในการติดต่อสื่อสารกับคนที่เราจะจ้าง
- Transmitting work ต้นทุนในขั้นตอนการ transfer ความรู้ต่างๆ
- Management of outsourcing relationship ต้นทุนในการส่งพนักงานของเราไปร่วมทำงานกับผู้ที่ทำให้
- Transitioning back to in-house ต้นทุนในการโอนงานกลับมาภายในองค์กร
วิธีจัดการความเสี่ยง
- Understand project
- Divide & conquer
- Align incentives
- Write short-period contracts
- Control subcontracting
- Do selective outsourcing
offshore outsourcing คือ การ outsource ไปยังที่อื่น นอกเหนือจากที่ client อยู่ เช่น บริษัทอยู่ในประเทศไทย แต่ outsource ให้บริษัทในประเทศจีนผลิตสินค้า ซึ่งจะต้องระมัดระวังเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรม
ปัจจัยในการทำ offshore outsourcing
- สภาพแวดล้อมทางธุรกิจและกฎหมายของประเทศนั้นๆ
- คุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
- ความเสี่ยงด้าน IT, Human capital, เศรษฐกิจ และอื่นๆ
ความเสี่ยงสำหรับ offshore outsourcing
* Cost-reduction expectation คาดหวังว่าจะสามารถลดต้นทุนได้
* Data Security ความปลอดภัยของข้อมูล
* Process discipline อาจทำให้องค์กรไม่สนใจที่จะพัฒนางานส่วนที่ให้ผู้อื่นทำ
* Loss of business knowledge ความรู้ของธุรกิจอาจหายไป
* Vendor failure to deliver
* ความต้องการในระบบเพิ่มขึ้นตลอดเวลา (Scope creep)
* Regulation
* ความแตกต่างทางวัฒนธรรม
* ผู้ที่ดูแลงานของเราลาออก ทำให้งานหยุดชะงัก
* Knowledge Transfer
งานที่ยังไม่เป็น routine ไม่สามารถกำหนดชัดเจนได้, งานที่เป็นงานหลักของบริษัท, งานที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัว งานเหล่านี้ไม่ควรทำ offshore outsource
Acquisition Process of IT Application
1. Planning & identifying IT-based systems การวางแผนต้องอาศัยคำแนะนำจากผู้ใช้งาน เพื่อให้พัฒนาออกมาได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด
2. Creating an IT architecture ดูโครงสร้าง data ต้องเข้าใจ business process, บริหารจัดการความเสี่ยง, วางแผนการเชื่อมโยงของ database
3. Selecting an acquisition option
3.1 build in-house
3.2 vendor build custom-made system
3.3 buy existing application
3.4 lease เช่น Software-as-a-service (Saas)
3.5 enter partnership
3.6 use combination
4. testing, installing IT applications นำระบบมาทดลองใช้ ทดลองนำมาใช้ร่วมกับระบบที่มีอยู่เดิม
5. operations, maintenance & updating ดูว่าผลของการใช้งานเป็นอย่างไร ต้องดูแลรักษาอย่างไร และพัฒนาต่อไปอย่างไร
Business Process Redesign
การปรับปรุงและพัฒนากระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พัฒนากระบวนการดูแลลูกค้า รวมถึงเปลี่ยนไปเป็น e-business ซึ่งมีวิธีในการปรับเปลี่ยน 2 วิธีคือ
1.BPR เป็นการเปลี่ยนกระบวนการทำงานตั้งแต่หนึ่งกระบวนการขึ้นไป
2.BPM เป็นการเปลี่ยนแปลง workflow system
Managerial Issues
1.Global & cultural ต้องเข้าใจความแตกต่างของแต่ละวัฒนธรรม
2.Ethical & legal issues
3.User involvement ผู้ใช้ต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนา
4.Change management ต้องมีการวางแผนรองรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดการการนำระบบใหม่เข้าไปใช้
5.Risk Management ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้การพัฒนาระบบไม่สำเร็จ และวางแผนป้องกันและแก้ปัญหาความเสี่ยงเหล่านั้นไว้ล่วงหน้า
Acquisition Process of IT Application
1. Planning & identifying IT-based systems การวางแผนต้องอาศัยคำแนะนำจากผู้ใช้งาน เพื่อให้พัฒนาออกมาได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด
2. Creating an IT architecture ดูโครงสร้าง data ต้องเข้าใจ business process, บริหารจัดการความเสี่ยง, วางแผนการเชื่อมโยงของ database
3. Selecting an acquisition option
3.1 build in-house
3.2 vendor build custom-made system
3.3 buy existing application
3.4 lease เช่น Software-as-a-service (Saas)
3.5 enter partnership
3.6 use combination
4. testing, installing IT applications นำระบบมาทดลองใช้ ทดลองนำมาใช้ร่วมกับระบบที่มีอยู่เดิม
5. operations, maintenance & updating ดูว่าผลของการใช้งานเป็นอย่างไร ต้องดูแลรักษาอย่างไร และพัฒนาต่อไปอย่างไร
Business Process Redesign
การปรับปรุงและพัฒนากระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พัฒนากระบวนการดูแลลูกค้า รวมถึงเปลี่ยนไปเป็น e-business ซึ่งมีวิธีในการปรับเปลี่ยน 2 วิธีคือ
1.BPR เป็นการเปลี่ยนกระบวนการทำงานตั้งแต่หนึ่งกระบวนการขึ้นไป
2.BPM เป็นการเปลี่ยนแปลง workflow system
Managerial Issues
1.Global & cultural ต้องเข้าใจความแตกต่างของแต่ละวัฒนธรรม
2.Ethical & legal issues
3.User involvement ผู้ใช้ต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนา
4.Change management ต้องมีการวางแผนรองรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดการการนำระบบใหม่เข้าไปใช้
5.Risk Management ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้การพัฒนาระบบไม่สำเร็จ และวางแผนป้องกันและแก้ปัญหาความเสี่ยงเหล่านั้นไว้ล่วงหน้า
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)